ชื่อปริญญาและสาขาวิชา ชื่อเต็ม (ภาษาไทย): วิทยาศาสตรบัณฑิต (เคมี)

ชื่อย่อ (ภาษาไทย): วท.บ. (เคมี)

ชื่อเต็ม (ภาษาอังกฤษ): Bachelor of Science (Chemistry)

ชื่อย่อ (ภาษาอังกฤษ): B.Sc. (Chemistry)

ชื่อปริญญาและสาขาวิชา ชื่อเต็ม (ภาษาไทย): วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาศาสตร์พอลิเมอร์)

ชื่อย่อ (ภาษาไทย): วท.ม. (วิทยาศาสตร์พอลิเมอร์)

ชื่อเต็ม (ภาษาอังกฤษ): Master of Science (Polymer Science)

ชื่อย่อ (ภาษาอังกฤษ): M.Sc. (Polymer Science)

คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา

หลักสูตรแผน ก แบบ ก 1

ผู้มีสิทธิ์สมัครเข้าศึกษาต้องมีคุณสมบัติดังนี้

(1) เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมี หรือใกล้เคียง ด้วยคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่น้อยกว่า 3.25 หรือ ผ่านการเรียนวิชาเคมีหรือวิชาใกล้เคียง รวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต และมีคะแนนเฉลี่ยสะสมของวิชาเหล่านี้ไม่น้อยกว่า 3.50 และมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำวิทยานิพนธ์ได้ ทั้งนี้การพิจารณาเรื่องความใกล้เคียงของวิชาและศักยภาพให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการสอบคัดเลือก

(2) เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์ หรือใกล้เคียง ด้วยคะแนนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 และการเข้าศึกษาให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการสอบคัดเลือก

หลักสูตรแผน ก แบบ ก 2

ผู้มีสิทธิ์สมัครเข้าศึกษาต้องมีคุณสมบัติดังนี้

(1) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาเคมี หรือสาขาใกล้เคียง ด้วยคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือมีประสบการณ์ในการทำงานด้านเคมี หรือด้านที่เกี่ยวข้อง มาไม่น้อยกว่า 1 ปี

(2) ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติตรงตามที่กล่าวไว้ตามข้างต้น อาจได้รับพิจารณาให้สมัครเข้าศึกษาได้ โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสอบคัดเลือก หรือคณะกรรมการบริหารหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์พอลิเมอร์

เกณฑ์การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร

หลักสูตร แผน ก แบบ ก 1 มีผลงานวิจัยในรูปวิทยานิพนธ์ โดยแสดงความสามารถในด้านการศึกษาด้วยตนเองและมีความคิดริเริ่ม ผลงานวิจัยที่ได้ควรก่อให้เกิดความรู้ใหม่ และผลงานวิทยานิพนธ์จะต้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยดำเนินการให้ผลงานหรือส่วนหนึ่งของผลงานได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพ

หลักสูตร แผน ก แบบ ก 2 ศึกษารายวิชาครบถ้วนตามที่กำหนดในหลักสูตร ได้คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.0 มีผลงานวิจัยในรูปวิทยานิพนธ์ที่แสดงถึงความสามารถในด้านการศึกษาด้วยตนเองและมีความคิดริเริ่ม ผลงานวิจัยที่ได้ควรก่อให้เกิดความรู้ใหม่ พร้อมทั้งเสนอวิทยานิพนธ์ และสอบผ่านการสอบปากเปล่าขั้นสุดท้าย และผลงานวิทยานิพนธ์จะต้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยดำเนินการให้ผลงานหรือส่วนหนึ่งของผลงานได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพ หรือเสนอต่อที่ประชุมวิชาการที่มีรายงานสืบเนื่องจากการประชุม (Proceedinds) ที่ได้มาตรฐาน

ชื่อปริญญาและสาขาวิชา ชื่อเต็ม (ภาษาไทย): วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (เคมี)

ชื่อย่อ (ภาษาไทย): วท.ม. (เคมี)

ชื่อเต็ม (ภาษาอังกฤษ): Master of Science (Chemistry)

ชื่อย่อ (ภาษาอังกฤษ): M.Sc. (Chemistry)

คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา

หลักสูตรแผน ก แบบ ก 1

ผู้มีสิทธิ์สมัครเข้าศึกษาต้องมีคุณสมบัติดังนี้

(1) เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมี หรือใกล้เคียง ด้วยคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่น้อยกว่า 3.25 หรือ ผ่านการเรียนวิชาเคมีหรือวิชาใกล้เคียง รวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต และมีคะแนนเฉลี่ยสะสมของวิชาเหล่านี้ไม่น้อยกว่า 3.50 และมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำวิทยานิพนธ์ได้ ทั้งนี้การพิจารณาเรื่องความใกล้เคียงของวิชาและศักยภาพให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้รับผิดชอบหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเคมี หรือ

(2) เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์ หรือใกล้เคียง ด้วยคะแนนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 และการเข้าศึกษาให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้รับผิดชอบหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเคมี

หลักสูตรแผน ก แบบ ก 2

ผู้มีสิทธิ์สมัครเข้าศึกษาต้องมีคุณสมบัติดังนี้

(1) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาเคมี ด้วยคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือมีประสบการณ์ในการทำงานด้านเคมี มาไม่น้อยกว่า 1 ปี

(2) ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติตรงตามที่กล่าวไว้ตามข้างต้น อาจได้รับพิจารณาให้สมัครเข้าศึกษาได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการสอบคัดเลือกของภาควิชาฯ และ/หรือผู้รับผิดชอบหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเคมี

เกณฑ์การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร

หลักสูตร แผน ก แบบ ก 1 มีผลงานวิจัยในรูปวิทยานิพนธ์ โดยแสดงความสามารถในด้านการศึกษาด้วยตนเองและมีความคิดริเริ่ม ผลงานวิจัยที่ได้ควรก่อให้เกิดความรู้ใหม่ และต้องได้รับการตีพิมพ์หรือยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ ซึ่งมีคุณภาพตามที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนด อย่างน้อย 1 เรื่อง

หลักสูตร แผน ก แบบ ก 2 มีผลงานวิจัยในรูปวิทยานิพนธ์ โดยแสดงความสามารถในด้านการศึกษาด้วยตนเองและมีความคิดริเริ่ม ผลงานวิจัยที่ได้ควรก่อให้เกิดความรู้ใหม่ และต้องได้รับการตีพิมพ์หรือยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติหรือระดับชาติ ซึ่งมีคุณภาพตามที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนด หรือตีพิมพ์ใน proceeding ของการประชุมวิชาการระดับนานาชาติซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงวิชาการ อย่างน้อย 1 เรื่อง

ชื่อปริญญาและสาขาวิชา ชื่อเต็ม (ภาษาไทย): ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (เคมี)

ชื่อย่อ (ภาษาไทย): ปร.ด. (เคมี)

ชื่อเต็ม (ภาษาอังกฤษ): Doctor of Philosophy (Chemistry)

ชื่อย่อ (ภาษาอังกฤษ): Ph.D. (Chemistry)

คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา

หลักสูตรแบบ 1.1 เป็นผู้สำเร็จปริญญามหาบัณฑิตหรือเทียบเท่า หรือประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูงในสาขาวิชาเคมี และมีพื้นความรู้ความสามารถและศักยภาพเพียงพอที่จะทำดุษฎีนิพนธ์ได้ หลักสูตรแบบ 2.1 เป็นผู้สำเร็จปริญญามหาบัณฑิตหรือเทียบเท่า หรือประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูงในสาขาวิชาที่สัมพันธ์กับสาขาวิชาเคมี และมีพื้นความรู้ความสามารถและศักยภาพเพียงพอที่จะทำดุษฎีนิพนธ์ได้

หลักสูตรแบบ 2.2 เป็นผู้สำเร็จปริญญาบัณฑิตหรือเทียบเท่า หรือประกาศนียบัตรบัณฑิตในสาขาวิชาเคมี โดยมีคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.50 และมีพื้นความรู้ความสามารถและศักยภาพเพียงพอที่จะทำดุษฎีนิพนธ์ได้ หรืออยู่ในดุลพินิจของผู้รับผิดชอบหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเคมี นักศึกษาที่ได้ศึกษาในหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเคมี หลักสูตรนานาชาติ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560) ขอเปลี่ยนไปศึกษาในหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตได้ หากมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 3.50 ขึ้นไป และมีความก้าวหน้าของงานวิจัยอยู่ในระดับดีมาก และ/หรือ อยู่ในดุลพินิจของผู้รับผิดชอบหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเคมี

หลักสูตร แบบ 1.1 มีผลงานวิจัยตีพิมพ์หรือได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการไม่น้อยกว่า 2 เรื่อง โดยผลงานวิจัยอย่างน้อย 1 เรื่องต้องได้รับการตีพิมพ์หรือยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติที่มีการตรวจสอบ (peer review) ซึ่งเป็นวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลที่ได้รับการยอมรับ เช่น Scopus เป็นต้น และมี impact factor และผลงานวิจัยอย่างน้อยอีก 1 เรื่องต้องได้รับการตีพิมพ์หรือยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติหรือวารสารวิชาการระดับชาติที่มีการตรวจสอบ และได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)

หลักสูตร แบบ 2.1 มีผลงานวิจัยตีพิมพ์หรือได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการไม่น้อยกว่า 2 เรื่อง โดยผลงานวิจัยอย่างน้อย 1 เรื่องต้องได้รับการตีพิมพ์หรือยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติที่มีการตรวจสอบ (peer review) ซึ่งเป็นวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลที่ได้รับการยอมรับ เช่น Scopus เป็นต้น และมี impact factor และผลงานวิจัยอย่างน้อยอีก 1 เรื่องต้องได้รับการตีพิมพ์หรือยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติหรือวารสารวิชาการระดับชาติที่มีการตรวจสอบ และได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)

หลักสูตร แบบ 2.2 มีผลงานวิจัยตีพิมพ์หรือได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ ที่มีการตรวจสอบ (peer review) และเป็นวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลที่ได้รับการยอมรับ เช่น Scopus เป็นต้น และมี impact factor ไม่น้อยกว่า 2 เรื่อง และได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)